Custom Search

Search This Blog

Wednesday, June 12, 2013

พบศพบนเขาจิงโจ้แล้ว ส่งพิสูจน์ DNA เทียบ เอกยุทธ อัญชันบุตร


พบศพ เอกยุทธ อัญชันบุตร ถูกฝังบนเขาจิงโจ้แล้ว สภาพกะโหลกยุบ คอมีรอยช้ำ ส่งตรวจ DNA พิสูจน์ว่าใช่ เอกยุทธ อัญชันบุตร หรือไม่ ด้าน สันติภาพ เพ็งด้วง สารภาพ วางแผนฆ่า มานานกว่า 3 เดือนแล้ว โดยฆ่ารัดคอในเขตบึงทองหลาง ก่อนขนศพไปทิ้งพัทลุง
           เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วันนี้ (12 มิถุนายน 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังลงพื้นที่บริเวณไร่นาสวนผสมในพื้นที่ บ้านเขาจิงโจ้ ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง เพื่อค้นหาศพของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังที่ถูก นายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถ พร้อมเพื่อนร่วมทีมอุ้มฆ่า ท่ามกลางประชาชนที่มุงดูเหตุการณ์กว่า 200 คน


           ทั้งนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ช่วยกันขุดพื้นดินที่คาดว่าน่าจะเป็นจุดฝังศพได้ประมาณ 15 นาที ขุดได้ลึกราว 1 เมตร ในที่สุดก็พบศพสภาพขึ้นอืด ปราศจากเสื้อผ้า ส่วนกะโหลกยุบไปเนื่องจากถูกของแข็งทุบเข้าที่ศีรษะ ที่ลำคอมีรอยช้ำ จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นศพของนายเอกยุทธหรือไม่ แต่ยังมีร่องรอยของเส้นผมที่ใกล้เคียงกับเส้นผมของนายเอกยุทธ จึงได้ส่งให้ทางนิติวิทยาศาสตร์นำไปพิสูจน์ด้วยการตรวจดีเอ็นเอก่อน รวมทั้งต้องให้ญาติยืนยันในเรื่องเสื้อผ้าของนายเอกยุทธที่ใส่ในวันที่หายตัวไปด้วย

           อย่างไรก็ตาม ทางนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของนายเอกยุทธ ให้สัมภาษณ์ว่า ดูจากลักษณะของศพแล้ว คาดว่าเป็นศพของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร อย่างแน่นอน


           ด้าน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ กล่าวว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนนครบาลได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับคนร้ายในคดีนี้ 4 รายแล้ว ใน 3 ข้อหาฉกรรจ์ คือ ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว และซ่อนเร้นอำพรางศพ 

           ส่วนที่ว่าเรื่องการอุ้มฆ่านายเอกยุทธจะเกี่ยวข้องกับการที่นายเอกยุทธเคยโพสต์เฟซบุ๊กว่า จะแฉข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่คอร์รัปชั่นหรือไม่นั้น พล.ต.ต.อนุชัย ระบุว่า คงต้องขอเวลาตรวจสอบก่อน รวมทั้งการที่ทนายความของนายเอกยุทธระบุว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ เสธ.คนดัง ก็ต้องตรวจสอบก่อนเช่นกัน โดยจะสอบสวนนายสันติภาพอีกครั้ง เพื่อหาความเชื่อมโยงของเรื่อง

           ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ได้กล่าวถึงการที่ นายสันติภาพ เพ็งด้วง ให้การรับสารภาพว่าได้นำเงินที่ได้มาจากนายเอกยุทธ ไปฝากไว้ที่ จ.ส.อ.อิทธิพล เพ็งด้วง สังกัดกองพันทหารช่างที่ 401 ค่ายอภัยบริรักษ์ จ.พัทลุง (ช.พัน 401) ซึ่งเป็นบิดา ว่า ทางกองทัพบกได้เรียก จ.ส.อ.อิทธิพล เข้ามาสอบถามในเรื่องนี้แล้ว เพื่อดูว่า จ.ส.อ.อิทธิพล เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่

           โดย จ.ส.อ.อิทธิพล ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน เวลา 14.00 น. นายสันติภาพ บุตรชาย ได้โทรมาเล่าให้ฟังว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น จากนั้นได้นำเงินที่ได้มาไปฝากแม่ไว้ที่กรุงเทพฯ เพื่อให้แม่นำมาฝากไว้ที่ จ.ส.อ.อิทธิพล ที่จังหวัดพัทลุงต่อ จ.ส.อ.อิทธิพล จึงไปรับเงินมาแล้วนำไปซ่อนไว้ที่บ้านของบิดาและบ้านญาติที่จังหวัดสงขลา
           นอกจากนี้ กองทัพบกยังได้ตรวจสอบด้วยว่า ในช่วงเกิดเหตุได้มีรถโฟล์คสีดำของนายเอกยุทธเข้ามายังภายในค่ายหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบก็ไม่พบรถดังกล่าวภายในหน่วย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ จ.ส.อ.อิทธิพล ให้มานั้น เป็นเพียงเบื้องต้นเท่านั้น จะน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใดต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบต่อไป โดยจะนำตัวไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในเย็นวันนี้



Thursday, February 28, 2013

วันนี้หุ้นเซรามิกฮอต! UMI มูลค่าซื้อขายทะลัก RCI ดีดแรงสุด

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 16:30:12 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ราคาหุ้นกลุ่มเซรามิกซื้อขายคึกคัก โดยมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 2 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ UMI ล่าสุด ณ เวลา 16.08 น. อยู่ที่ 38.75 บาท บวก 5.75 บาท หรือ 17.42% มูลค่าการซื้อขาย 2,647.12 ล้านบาท ขณะที่บริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TGCI อยู่ที่ 7.50 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 11.94% มูลค่าการซื้อขาย 2,205.63 ล้านบาท ขณะที่บริษัท โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ RCI ปรับตัวขึ้นแรงสุดในวันนี้ โดยล่าสุดอยู่ที่ 6.55 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 29.70% มูลค่าการซื้อขาย 581.41 ล้านบาท ซึ่งในเชิงเทคนิคราคาหุ้นทั้ง 3 ตัวเข้าเขตซื้อมากเกินไปจากการเก็งกำไรผลประกอบการที่ฟื้นตัวและเงินปันผล
นางสาวปวีณา เหล่าวิวัฒน์วงศ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ UMI เปิดเผยในวันนี้ (28 ก.พ.) ว่า ผลประกอบการในไตรมาส 4/2555 ว่า บริษัทมีรายได้เฉพาะกิจการรวม 710 ล้านบาท เติบโต19% จากไตรมาส 4/2555 และมีกำไรสุทธิ 39.6 ล้านบาท เติบโต 67% จากไตรมาส 4/2554 ส่งผลให้รายได้รวมทั้งปี 2555 อยู่ที่ 2,866 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 % และมีกำไรสุทธิ 170.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากปี 2554
ขณะที่มติคณะกรรมการอนุมัติการจ่ายปันผลประจำปี 2555 โดยจ่ายเป็น 4 หุ้นเดิม ต่อ 3 หุ้นปันผลใหม่ คิดเป็น 0.75 บาทต่อหุ้น และจ่ายเป็นเงินสดปันผล 0.12 บาทต่อหุ้น รวมเป็นทั้งหมด 0.87 บาทต่อหุ้น ซึ่งนับเป็นการจ่ายปันผลที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างรอนำเสนอเพื่อขออนุมัติผู้ถือหุ้น
ส่วนของแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2556 ทางบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมของบริษัทไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท โดยจะมุ่งมั่นเป็นผู้นำนวัตกรรมการผลิตกระเบื้องกึ่ง 3 มิติ หรือ Full HD Tiles อย่างเต็มตัว โดยในปี 2556 จะมีการพัฒนาทั้งในส่วนของลวดลายที่จะมีความสมจริง และขนาดที่จะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น และยังจะเป็นผู้ผลิตกระเบื้องเซรามิครายแรก ที่ผลิตกระเบื้องบุผนัง ด้วยระบบ Full HD อีกด้วย เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด และตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างทั่วถึง และคาดว่าจะก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำตลาดกระเบื้องกึ่ง 3 มิติ อย่างเต็มตัว ภายในปี 2556
นอกจากนี้ นางสาวปวีณา ยังกล่าวอีกว่า จากการรวมตัวกันระหว่าง 3 บริษัทกระเบื้องชั้นนำ ได้แก่ บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ UMI, บริษัท โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ RCI และบริษัท ที.ที เซรามิค จำกัด (TTC) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องพอร์ซเลนส์ แบรนด์ Cergres ที่มีกำลังผลิตมากที่สุดในประเทศ จะส่งผลให้ UMI Group มีกำลังการผลิตมากถึง 34 ล้านตารางเมตร (ตร.ม.) ต่อปี ซึ่งจะทำให้กลุ่มสามารถผลิตสินค้าตอบสนองต่อความต้องการของตลาด อย่างทั่วถึง และมุ่งมั่นเติบโตร่วมกันอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น
บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ว่า ปัจจัยหนุนราคาหุ้น UMI จะมาจาก (1) คาดอัตราการเติบโตกำไรฯของ UMI สดใสกว่ากลุ่ม โดยคาดอัตราการเติบโตกำไรปี 2012-14F เฉลี่ย 40% เทียบ DCC ที่โตเฉลี่ย 6.9% (2) ผลการดำเนินงานปี 2013-14F มีแนวโน้มเติบโตสูง ตามผลประกอบการที่พลิกฟื้นเร็วกว่าคาดของ RCI และจาก TTC ที่ UMI ซื้อกิจการเข้ามาเมื่อปี 2012 แต่ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 13.40 บาท

Friday, February 22, 2013

SC ออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3 พันลบ.แตกพาร์เป็นหุ้นละ 1 บ.

(ข้อมูลจากข่าวหุ้นธุรกิจ)
วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 18:07:08 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า บริษัทจะออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3 พันล้านบาท อายุไม่เกิน 5 ปี เพื่อเสนอขายให้ประชาชนทั่วไป หรือนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) หรือนักลงทุนสถาบันในประเทศ
นอกจากนี้ คณะกรรมการยังอนุมัติให้เพิ่มวงเงินการออกตั๋วแลกเงินอีก 1.5 พัน ล้านบาท รวมเป็นวงเงินตั๋วแลกเงิน 3 พันล้านบาท มีระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 270 วัน เพื่อ เสนอขายแบบ PP ต่อนักลงทุนสถาบัน หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยบริษัทมีแผนจะนำเงินไปใช้ ในการดำเนินงาน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
คณะกรรมการ SC ยังอนุมัติให้บริษัทเปลี่ยนแปลง มูลค่าพาร์จากปัจจุบันที่หุ้นละ 5 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท พร้อมทั้งให้จ่ายเงินปันผล สำหรับผลประกอบการงวดปี 55 ใน อัตราหุ้นละ 0.787 บาท โดยจ่ายเป็นหุ้นปันผล ในอัตราส่วน 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.162 บาท บริษัทจะประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 23 เม.ย.56