Custom Search

Search This Blog

Friday, March 25, 2011

Porsche Cayman ปอร์เช่ เคย์แมน ชนสาวลาวขาด 2 ท่อน คนขับมอบตัวแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม 2011 เวลา 19:28 น. (from http://www.atnnonline.com/)

สภ.ปทุมธานี (27 มี.ค.) อุบัติเหตุรถยนต์ปอร์เช่ สีขาว ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน ง-1352 กทม. เฉี่ยวชน นส.ทองใบ อายุ 17 ปี สัญชาติลาว จนร่างขาด 2 ท่อน โดยคนขับจะขับรถหลบหนีไปเป็นระยะทางไกลกว่า 10 กม.แล้วจอดรถทิ้งในซอยวัดใหญ่สว่างอารมณ์ นั้น ล่าสุดวันนี้ เมื่อเวลา 17.40 น. นายศุภชัย ทักษิณทวีทรัพย์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/61 ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. พร้อมด้วยนายจรัญ ทัตสิริวรวัฒน์ อายุ 50 ปี พ่อและญาติของนายพีรพล ทักษิณทวีทรัพย์ อายุ 19 ปี นักศึกษา ปี 1 มหาวิทยาลัยรังสิต คณะบริหารธุรกิจ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บัญชา มีเลิศ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อประสานงานในการนำตัวนายพีรพล ผู้ขับขี่รถยนต์ปอร์เช่
นายจรัญ กล่าวว่า ทราบข่าวตั้งแต่วันแรกแล้วและได้ประสานงานกับบริษัทกรุงเทพประกันภัย เข้ามาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่วันแรก ขอยืนยันว่าเราเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น โดยในเบื้องต้นนั้นหลังเกิดเหตุ นายพีรพล คนขับผู้เป็นหลานชาย ได้โทรศัพท์มาหาตน และอยู่ในสภาพตกใจและได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้ตั้งใจหลบหนี แต่เพราะตกใจ ซึ่งเราก็ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอดตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุแล้วและพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง
ต่อมาเวลา 18.15 น. นายพีรพล พร้อมด้วยญาติๆ ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองปทุมธานี โดยมีการแต่งกายแบบรัดกุมมีเสื้อแบบผ้าคลุมศรีษะปิดบังใบหน้า พร้อมทั้งกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ ตนเองขับรถมาด้วยความเร็วประมาณ 120 กม.ต่อ ชม.โดยขับรถมาทางด้านเลนขวา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งมีรถเมล์จอดอยู่ทางด้านเลนซ้ายมือ และผู้ตายนั้นวิ่งออกมาจากทางด้านหน้าของรถเมล์ที่จอดอยู่ตัดหน้ารถของตนเองอย่างกระทันหัน ทำให้รถของตนชนเข้าอย่างจัง ซึ่งตนเองนั้นทำอะไรไม่ถูกและตกใจมาก จึงอยากขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย
พ.ต.อ.นิสากร บุญตานนท์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี กล่าวว่า ในเบื้องต้นผู้ต้องมาเดินทางเข้ามามอบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งข้อกล่าวว่า ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และขับรถชนแล้วหลบหนี ซึ่งเมื่อผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเองและรับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเองแล้วก็สอบปากคำและปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ตองมีการประกันตัว

ส่วนเรื่องที่ผู้ตายนั้นเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งจากการตรวจสอบนั้นผู้ตายเดินทางเข้ามาอย่างถูกต้อง ซึ่งก็จะได้รับการชดเชยต่างๆตามกฎหมาย


25 มีค. 2554 22:21 น. (จากเนชั่นทันข่าว)



จากกรณีที่มีผู้ขับขี่รถยนต์ปอร์เช่ สีขาว ป้ายแดง เฉี่ยวชน นส.ทองใบ สัญชาติลาว อายุ 17 ปี จนขาดสองท่อน โดยท่อนบนตั้งแต่เอวขึ้นไปได้ทะลุกระจกรถตกลงไปที่ในรถ ก่อนที่คนขับจะขับรถหลบหนีไปเป็นระยะทางไกลกว่า 10 กม.แล้วจอดรถทิ้งไว้ปากซอยวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ก่อนจะทิ้งรถหลบหนีไปตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้(25มีค.54) เวลา 18.00 น.ได้มีตัวแทนบริษัทประกันภัยของบริษัทกรุงเทพประกันภัย ได้เข้าพบ พ.ต.ท.บัญชา มีเลิศ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ผู้เป็นเจ้าของคดี โดยแจ้งว่าจะติดต่อขอเจรจากับญาติๆของผู้ตายในวันพรุ่งนี้ ส่วนรายละเอียดของคนขับรถคันเกิดเหตุนั้น ยังไม่มีการเปิดเผย
ด้าน พ.ต.ท.บัญชา มีเลิศ กล่าวว่า ในเบื้องต้นนี้ได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทกรุงเทพประกันภัยว่า ผู้ครอบครองรถยนต์ปอร์เช่ คันเกิดเหตุคือนายศุภชัย ทักษิณทวีทรัพย์ อายุ 58 ปี ส่วนผู้ขับขี่นั้นยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดยังไม่สามารถตรวจสอบได้
            อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้ให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบและเก็บร่องรอยรายนิ้วมือแฝงของผู้ขับขี่รถคันเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ได้เก็บรายนิ้วมือแฝงทั้งที่พวงมาลัยรถยนต์ ประตูรถรวมทั้งที่วิทยุในรถเพราะหลังเกิดเหตุนั้นยังพบว่าวิทยุในรถยังเปิดเพลงอยู่ ส่วนเอกสารต่างๆที่พบในรถนั้นเป็นใบเสร็จการเสียค่าใช้จ่ายของมหาวิทยาลัยรังสิต แต่คงยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้เพราะยังไม่แน่ว่าชื่อในเอกสารนั้น จะเป็นคนขับรถหรือไม่ ทั้งนี้คงไม่ต้องกังวลเราจะทำคดีอย่างยุติธรรม เพราะถ้ามีการสับเปลี่ยนตัวผู้ขับขี่ โดยให้คนอื่นมารับผิดแทนนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเรามีหลักฐานลายนิ้วมือ

             พ.ต.ท.บัญชา กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของคดีนั้นผู้ขับขี่คงต้องโดนข้อหาขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตซึ่งมีโทษจำคุก 10 ปี และขับรถชนแล้วหลบหนี มีโทษจำคุก 6 เดือน ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนและติดตามตัวผู้ขับขี่รายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พยานผู้เห็นเหตุการณ์ ปากทางเข้าวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ถ.ราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี
https://youtu.be/AtdFUeefY0k






(ใจไม่ถึง ห้ามคลิ๊กดูเด็ดขาด)

(ใจไม่ถึง ห้ามคลิ๊กดูเด็ดขาด)